รวม 10 Project Management Tool ที่ทีมควรใช้ ไม่หลงงาน ไม่หลุดเดดไลน์!

อยากให้งานเป๊ะทุกเดดไลน์ ต้องมีเครื่องมือที่ใช่! รวม 10 Project Management Tool ที่ทีมเก่งเลือกใช้ ช่วยจัดการงานให้เป็นระบบ ไม่หลง ไม่ลืม ไม่วุ่นวาย!
แชร์
10 โปรเเกรมช่วยจัดการงาน

การทำงานร่วมกันกลายเป็นหัวใจของความสำเร็จในทุกองค์กร “การจัดการโปรเจกต์” ไม่ใช่เรื่องของหัวหน้าทีมเพียงคนเดียวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องรับรู้ เป้าหมายเดียวกันและทำงานอย่างมีระบบ การเลือกใช้ Project Management Tool ที่เหมาะสมจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้งานเดินหน้าได้รวดเร็ว ไม่สะดุด และลดปัญหาการสื่อสารผิดพลาดได้อย่างชัดเจน

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

    Project Management Tool สำคัญอย่างไรต่อความสำเร็จของทีม?

    การจะทำงานเป็นทีมให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่รวมคนเก่งไว้ด้วยกัน แต่คือการสร้างระบบที่ช่วยให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดบมีบทบาทสำคัญดังนี้

    1. สร้างความชัดเจนในงานและเป้าหมาย

    หนึ่งในอุปสรรคของการทำงานเป็นทีมคือความไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าใครทำอะไร งานไหนต้องเสร็จก่อนหลัง หรือแม้แต่เป้าหมายของโปรเจกต์จริง ๆ คืออะไร Project Management Tool เข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วยการจัดระเบียบงานให้เห็นชัดในรูปแบบที่ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่ง Task ย่อย การ Assign งานให้แต่ละคน หรือการตั้งเป้าหมายและเส้นตายของแต่ละงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมไม่หลงทาง และเดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ

    2. ลดการสื่อสารผิดพลาด

    แม้จะมีการประชุมหรือแชทกันบ่อยครั้ง แต่ถ้าข้อมูลไม่อยู่ในที่เดียวกัน โอกาสเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนก็สูงมาก Project Management Tool ช่วยรวมทุกการสื่อสารไว้ในที่เดียว เช่น การพูดคุยในแต่ละ Task การแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หรือการแนบไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำให้สมาชิกในทีมสามารถย้อนกลับไปดูข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องตามหาข้อความในแชทหรืออีเมลย้อนหลัง การลดความผิดพลาดจากการสื่อสาร จึงช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน

    3. จัดลำดับความสำคัญได้แม่นยำ

    เมื่อโปรเจกต์มีงานหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน การจัดลำดับความสำคัญจึงเป็นสิ่งสำคัญ Project Management Tool ช่วยให้ทีมเห็นได้ชัดว่างานไหนควรทำก่อนหลัง งานไหนเป็นคอขวดที่ถ้าไม่เสร็จจะกระทบงานอื่น หรืองานไหนมีเดดไลน์กระชั้นชิด การมองภาพรวมของงานทั้งหมดนี้ทำให้สามารถวางแผนทรัพยากรได้แม่นยำ ลดปัญหาเร่งงานผิดจุด และช่วยให้ทีมโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ได้มากขึ้น

    4. ช่วยลดภาระของผู้จัดการทีม

    หัวหน้าทีมมักต้องคอยติดตามงาน กระจายงาน และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกินเวลาและพลังงานมหาศาล Project Management Tool ช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ได้อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการมอนิเตอร์ความคืบหน้า สรุปภาพรวม และแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเกิดความล่าช้า ทำให้หัวหน้าทีมไม่ต้องจดทุกอย่างไว้ในสมอง แต่สามารถใช้เวลากับการวางแผนงานและพัฒนาทีมได้มากขึ้น ช่วยให้การบริหารทีมมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างชัดเจน

    10 โปรเเกรม Project management

    จัดการโปรเจกต์ ด้วย 10 โปรแกรม Project Management ที่ออฟฟิศควรใช้

    Trello โปรแกรม Project Management Tool

    1. Trello 

    Trello เป็น Project Management Tool ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเรียบง่าย เหมาะกับทั้งทีมเล็กและใหญ่ โดยใช้ระบบ Kanban Board ที่ให้สมาชิกแต่ละคนสามารถลากและวาง Task ไปตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น To Do, Doing, และ Done จุดเด่นอยู่ที่อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร ไม่ซับซ้อน ใช้งานครั้งแรกก็เข้าใจได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถแนบไฟล์ ตั้งกำหนดเวลา และแท็กผู้รับผิดชอบได้อย่างครบถ้วน เหมาะกับทีมที่ต้องการภาพรวมโปรเจกต์แบบเรียลไทม์

    • ราคา Premium Plan 
      • ชำระรายปี: 10 USD × 35 บาท ≈ 350 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 12.50 USD × 35 บาท ≈ 437.50 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    ClickUp โปรแกรมติดตามงาน

    2. ClickUp

    ClickUp คือ Project Management Software ที่มาแรงสำหรับทีมยุคใหม่ เพราะรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร Task การติดตามเวลา การตั้งเป้าหมาย ไปจนถึงการสื่อสารและการเขียนเอกสาร ทั้งหมดเชื่อมโยงกันในระบบเดียว ทำให้ทีมมองเห็นภาพรวมของโปรเจกต์ได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งหน้าแดชบอร์ดให้ตรงกับสไตล์การทำงานของแต่ละทีม และรองรับมุมมองทั้งแบบ Kanban, Timeline, Gantt Chart หรือแม้แต่ Mind Map จึงเหมาะกับทั้งสายคอนเทนต์ สายครีเอทีฟ และสายเทคนิคอย่างแท้จริง

    • ราคา Business Plan 
      • ชำระรายปี: 12 USD × 35 บาท ≈ 420 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 15 USD × 35 บาท ≈ 525 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Asana เครื่องมือ Project Management Tool สำหรับโปรเจกต์ใหญ่

    3. Asana

    Asana คือเครื่องมือที่หลายองค์กรเลือกใช้เพื่อควบคุม Task และโปรเจกต์ขนาดใหญ่ สามารถสร้างงานย่อย จัดกลุ่มตามหมวดหมู่ และติดตามความคืบหน้าในมุมมองต่าง ๆ ทั้ง Timeline, List, Calendar หรือ Kanban จุดแข็งคือความสามารถในการกำหนด Dependencies หรือความเชื่อมโยงระหว่างงานต่าง ๆ ทำให้ผู้จัดการทีมวางแผนได้รัดกุม และทีมไม่พลาดงานสำคัญที่เชื่อมโยงกัน

    • ราคา Advanced 
      • ชำระรายปี: 12 USD × 35 บาท ≈ 420 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 15 USD × 35 บาท ≈ 525 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Slack เครื่องมือ Project Management Tool คุยงาน

    4. Slack 

    แม้ Slack จะไม่ใช่โปรแกรมติดตามงานเต็มรูปแบบ แต่เป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารที่ทีมเก่งใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น Slack ช่วยให้การสื่อสารในทีมมีระบบ แยกห้องพูดคุยตามโปรเจกต์ เชื่อมต่อกับ Trello, Asana, Jira หรือ ClickUp ได้ในไม่กี่คลิก พร้อมฟีเจอร์ Notification และ Bot ที่ช่วยแจ้งเตือนงานสำคัญในช่องแชตโดยตรง เป็นศูนย์กลางการสื่อสารที่ทำให้ทีมรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวได้ทันที

    • ราคา Business 
      • ชำระรายปี: 12.50 USD × 35 ≈ 438 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 15 USD × 35 ≈ 525 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Notion โปรแกรม Project Management Tool

    5. Notion

    Notion ไม่ได้เป็นแค่ Project Management Tool แต่ยังเป็น Wiki ที่รวมความรู้ ความเข้าใจ และข้อมูลทุกอย่างไว้ในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นแผนงาน เช็กลิสต์ บันทึกการประชุม หรือคู่มือการทำงาน ด้วยฟีเจอร์แบบ All-in-One ทำให้ Notion กลายเป็นศูนย์กลางความรู้และการทำงานร่วมกันในทีม เหมาะสำหรับทีมที่ให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ และต้องการความยืดหยุ่นสูง

    • ราคา Business Plan 
      • ชำระรายปี: 15 USD × 35 ≈ 525 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 18 USD × 35 ≈ 630 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Jira โปรแกรม Project Management Tool สาย Software Development

    6. Jira

    หากทีมของคุณเป็นสาย Software Development หรือ Agile ทีม Jira คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์ที่สุด Jira ให้คุณสร้าง Issue, จัด Sprint, และติดตาม Bug ได้อย่างเป็นระบบ จุดเด่นอยู่ที่การ Integrate กับเครื่องมือ DevOps และระบบ CI/CD อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับระบบ Reporting ที่ช่วยให้ Product Owner และ Scrum Master ตัดสินใจได้ดีขึ้น เหมาะกับการบริหารโปรเจกต์ที่ซับซ้อนและมีโครงสร้างเทคนิคชัดเจน

    • ราคา Premium
      • ชำระรายปี: 12.48 USD × 35 ≈ 437 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 13.53 USD × 35 ≈ 474 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Monday.com Project Management Tool เหมาะกับทุกออฟฟิศ

    7. Monday.com

    Monday.com โดดเด่นเรื่องหน้าตาที่เข้าใจง่าย สีสันสื่อสารสถานะงานได้ชัดเจน เหมาะสำหรับทีมที่ทำงานหลากหลายสาย เช่น Agency, HR, Finance ไปจนถึง Creative จุดแข็งของ Monday คือ Workflow Automation ที่ช่วยให้การทำงานไหลลื่น เช่น เมื่อ Task ถูกมาร์กว่าเสร็จแล้ว ระบบจะแจ้งเตือนทีมอัตโนมัติ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการความคล่องตัว และมีหลายฝ่ายทำงานร่วมกันในโปรเจกต์เดียว

    • ราคา Standard Plan
      • ชำระรายปี: 10 USD × 35 ≈ 350 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 12 USD × 35 ≈ 420 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Project Management Tool เครื่องมือสำหรับองค์กร

    8. Microsoft Project

    สำหรับองค์กรที่เน้นงานระดับ Enterprise และต้องการความแม่นยำแบบมืออาชีพ Microsoft Project คือเครื่องมือที่ใช้กันมายาวนาน จุดเด่นคือการวางแผนโครงสร้างงานได้ละเอียด ตั้งแต่ WBS (Work Breakdown Structure) ไปจนถึง Gantt Chart ขนาดใหญ่ พร้อมฟีเจอร์ในการวิเคราะห์ทรัพยากรและจัดสรรงบประมาณ เหมาะกับการบริหารโปรเจกต์ระดับองค์กร หรือโปรเจกต์ที่มีหลาย Phase ซับซ้อน

    • ราคา On‑Premises (ซื้อขาดครั้งเดียว)
      • Project Standard 2021/2024 680 USD ≈ 23,800 บาท
    Project Management Tool เครื่องมือพนักงานออฟฟิศ

    9. Basecamp

    Basecamp เป็น Project Management Tool ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มทีมทำงานแบบ Remote หรือ Hybrid เพราะออกแบบมาให้การสื่อสารและบริหารงานอยู่ในจุดเดียว ทั้งการ Assign งาน, ระบบ Message Board, To-do List, Group Chat และ Schedule ทำให้ทีมไม่ต้องกระจายข้อมูลหลายช่องทาง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Automatic Check-in” ที่ให้ทีมรายงานความคืบหน้าแบบรายวันหรือรายสัปดาห์โดยไม่ต้องเรียกประชุม ช่วยประหยัดเวลาและจัดการงานได้ต่อเนื่อง

    • ราคา Basecamp
      • ชำระรายเดือน: 15 USD × 35 ≈ 525 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
    Project Management Tool เครื่องมือกำหนดงานล่วงหน้า

    10. TeamGantt

    สำหรับทีมที่ต้องการเห็นภาพไทม์ไลน์ชัดเจน TeamGantt คือเครื่องมือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ จุดเด่นคือการลากเส้นไทม์ไลน์ กำหนดงานล่วงหน้า และเห็น Task ที่ซ้อนกันหรือทับซ้อนกันได้แบบเรียลไทม์ เหมาะกับการบริหารโปรเจกต์ที่มีเส้นตายเฉพาะ เช่น งานอีเวนต์ โปรเจกต์การตลาด หรืองานที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรหลายฝ่ายพร้อมกัน

    • ราคา Pro Plan
      • ชำระรายปี: 49 USD × 35 ≈ 1,715 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน
      • ชำระรายเดือน: 59 USD × 35 ≈ 2,065 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน

    สรุป

    การมี Project Management Tool ที่เหมาะสมกับการทำงาน ช่วยให้ทีมไม่หลงทิศทาง ไม่พลาดเดดไลน์ และลดความเครียดจากการประสานงาน ไม่ว่าจะเป็น Trello ที่ใช้ง่าย หรือ ClickUp ที่ครบเครื่อง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับบริบทของทีมตัวเองด้วย อย่ารอให้งานโหลดแล้วค่อยหาเครื่องมือมาจัดการ ลองเริ่มใช้ Project Management Tool สักตัวตั้งแต่วันนี้ แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน

    Picture of chen.krajang
    chen.krajang

    บทความแนะนำ

    ในโลกดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว การสร้างตัวตนของแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของตนเอง
    1161
    แชร์
    ประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ควรทำเว็บไซต์ควรใส่ใจ โดยการปรับปรุงเชิง Technical SEO เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์และช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาคำตอบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
    1110
    แชร์
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การทำ SEO นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่จะเห็นผลมากยิ่งขึ้นเมื่อทำ SXO หรือ Search Experience Optimization ควบคู่กันไปด้วย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไปให้ผู้ใช้
    1090
    แชร์

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า

    KRA-JANG พร้อมช่วยเหลือและทำธุรกิจไปกับคุณ

    รับการตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง