เกาะติด 9 เทรนด์การทำ SEO 2026 ให้พร้อมครองอันดับเหนือคู่แข่ง

โลกของ SEO ในทุกวันนี้หมุนเร็วจนหลายคนตามแทบไม่ทัน ปี 2025 ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มของการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อหน้าผลการค้นหาของ Google เริ่มเปลี่ยนจาก "รายการลิงก์" ไปสู่ "เครื่องมือตอบคำถามอัจฉริยะ" อย่างเต็มรูปแบบ การมาถึงของ Search Generative Experience (SGE) และ AI ไม่ใช่แค่เทรนด์ใหม่ แต่เป็นสัญญาณบอกว่า เกมการแข่งขันกำลังจะเปลี่ยนไป
แชร์
อัปเดตเทรนด์ การทำ SEO 2026

คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ “มีอะไรใหม่” แต่คือแล้วในปี 2026 เราจะยืนอยู่ตรงไหนในสนามแข่งนี้?

ในบทความนี้เราจึงไม่ได้จะมาลิสต์ SEO Trends ใหม่ ๆ เพียงผิวเผิน แต่จะพาผู้อ่านทุกคนไปเจาะลึก ถึงแก่นของ 9 เทรนด์สำคัญแห่งปี 2026 ที่จะชี้ขาดว่าใครจะรุ่งหรือใครจะร่วงเราจะมาดูกันว่าทำไมเทรนด์นี้ถึงสำคัญ และเราต้องปรับกลยุทธ์อย่างไรบ้าง เพื่อเปลี่ยนทุกความท้าทาย ให้เป็นโอกาสในการครองอันดับเหนือคู่แข่ง ซึ่งการปรับกลยุทธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้อาจต้องอาศัย ความเชี่ยวชาญและทรัพยากร การปรึกษาเอเจนซี่รับทำ SEO ที่มีประสบการณ์จึงเป็นทางลัดสำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ นำหน้าคู่แข่งไปได้ก่อนใคร

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ
    อัปเดต SEO Trends 2026 มีอะไรบ้าง

    อัปเดต 9 เทรนด์การทำ SEO ที่คุณต้องรู้ในปี 2026

    ในปี 2026 การเปลี่ยนแปลงที่เคยเป็นเพียง SEO Trends กำลังจะกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ที่ทุกธุรกิจต้องปรับตัวตามให้ทัน การแข่งขันไม่ได้อยู่แค่การแย่งชิงอันดับบนรายการลิงก์อีกต่อไป แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้คอนเทนต์ของเราได้เป็น “คำตอบที่ดีที่สุด” ที่ AI เลือกไปนำเสนอ

    1. AI Search และ SGE คือ “หน้าแรก” ใหม่ของ Google

    AI Overviews หรือที่รู้จักในชื่อ Search Generative Experience – SGE จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ โดย AI จะสรุปคำตอบจากหลายแหล่งข้อมูลมาแสดงไว้ที่ด้านบนสุดของผลการค้นหา ทำให้อันดับ 1 แบบดั้งเดิมถูกผลักลงไปข้างล่าง และผู้ใช้อาจไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์เพื่อหาคำตอบอีกต่อไป (Zero-Click Search)

    อัปเดตเทรนด์การทำ SEO ที่ควรรู้ปี 2026
    • สร้างเนื้อหาที่ “AI-Friendly”: จัดโครงสร้างบทความให้ชัดเจน ใช้หัวข้อย่อย (H3, H4), Bullet points, และตาราง เพื่อให้ AI ดึงข้อมูลไปสรุปได้ง่าย
    • เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ: สร้างคอนเทนต์ให้มีคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือจน AI ต้องเลือกข้อมูลของเราไปอ้างอิง โดยเน้นการทำ E-E-A-T อย่างเข้มข้น
    • โฟกัสที่ Long-tail Keywords: สร้างคอนเทนต์ที่ตอบคำถามเฉพาะเจาะจงให้ดีที่สุด เพราะคำถามเหล่านี้มีโอกาสถูกนำไปแสดงใน AI Overviews สูง

    2. E-E-A-T และ Helpful Content เน้น “ประสบการณ์จริง” มากขึ้น

    Google จะให้ความสำคัญกับ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) มากขึ้น โดยเฉพาะตัว ‘E’ แรก Experience (ประสบการณ์) คอนเทนต์ที่เขียนจากผู้ใช้งานจริง มีหลักฐาน หรือมีมุมมองจากประสบการณ์ตรง จะมีคุณค่าเหนือกว่าบทความที่รวบรวมข้อมูลทั่วไป

    เทรนด์การทำ SEO แบบเน้นประสบการณ์จริง
    • แสดงให้เห็นไม่ใช่แค่บอก: แทนที่จะบอกว่าสินค้าดี ให้แสดงรูปภาพหรือวิดีโอที่ทีมงานใช้งานจริง รีวิวจากมุมมองผู้ใช้จริง บอกทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา
    • สร้าง Author Bio ที่แข็งแกร่ง: ระบุให้ชัดเจนว่าผู้เขียนคือใคร มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ อย่างไร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหา
    • อ้างอิง Case Study: ใส่ผลลัพธ์จริงหรือเรื่องราวความสำเร็จจากประสบการณ์ตรง เพื่อทำให้เนื้อหามีน้ำหนักและแตกต่าง

    3. การสร้าง Topical Authority (อำนาจแห่งหัวข้อ)

    การทำ SEO จะเปลี่ยนจากการโฟกัสที่ “Keyword” เป็นการครอบครอง “Topic” ทั้งหมด Google จะให้คะแนนเว็บไซต์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ผ่านการสร้างคอนเทนต์ ที่ครอบคลุมทุกแง่มุม

    เทรนด์การทำ SEO โดยเน้น Topic
    • วางแผนแบบ Pillar-Cluster: สร้างหน้าหลัก (Pillar Page) ที่สรุปภาพรวมของหัวข้อใหญ่ แล้วสร้างหน้าย่อย (Cluster Content) ที่เจาะลึกในแต่ละประเด็น
    • สร้าง Internal Link ที่เป็นระบบ: เชื่อมโยงลิงก์จากหน้าย่อยกลับไปหาหน้าหลัก และเชื่อมโยงระหว่างหน้าย่อยที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อสร้างเครือข่ายคอนเทนต์ที่แข็งแรง

    4. Visual Search และ Multimodal Search จะกลายเป็นกระแสหลัก

    ผู้คนจะค้นหาด้วยภาพผ่าน Google Lens และการค้นหาแบบผสมผสาน เช่น ถ่ายรูปสินค้าแล้วพิมพ์ถามว่า “ซื้อที่ไหน” มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม E-commerce และธุรกิจท้องถิ่น

    SEO Trends มีอะไรบ้าง
    • ทำ Image SEO ขั้นสูง: ใส่ Alt Text ที่สื่อความหมาย ตั้งชื่อไฟล์ภาพให้ตรงคีย์เวิร์ด และบีบอัดไฟล์ภาพให้โหลดเร็ว
    • ใช้รูปภาพ Original คุณภาพสูง: รูปภาพที่ถ่ายเองจะได้รับความสำคัญมากกว่า Stock Photo ทั่วไป
    • ใช้ Schema Markup สำหรับรูปภาพ: การใส่โค้ด Schema จะช่วยให้ Google เข้าใจว่ารูปภาพนั้นคืออะไร เช่น เป็นรูปสินค้า หรือสูตรอาหาร

    5. Video SEO ขยายตัวไปทุกแพลตฟอร์ม

    วิดีโอสั้นจาก TikTok และ Instagram Reels จะปรากฏบนหน้าผลการค้นหาของ Google มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วิดีโอไม่ใช่แค่ส่วนเสริม แต่เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของคำตอบที่ผู้ใช้ต้องการ

    อัปเดตการทำ Video SEO
    • ฝังวิดีโอในบทความ: การนำวิดีโอที่เกี่ยวข้องมาฝังในหน้าเว็บ ช่วยเพิ่มเวลาที่คนอยู่บนหน้า (Dwell Time)
    • สร้าง Video Transcript: ใส่ข้อความที่ถอดมาจากวิดีโอไว้ในบทความด้วย จะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาในวิดีโอและนำไปจัดอันดับได้
    • ทำ SEO บนทุกแพลตฟอร์ม: ตั้งชื่อ คำอธิบาย และใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องบน TikTok และ Reels เพื่อเพิ่มโอกาสให้วิดีโอถูกค้นเจอ

    6. กลยุทธ์เพื่อชนะใน Zero-Click Search

    เมื่อผู้ใช้ได้คำตอบจากหน้า Google โดยตรง เป้าหมายของเราจึงเปลี่ยนจากการ “ได้คลิก” เป็นการ “ได้แสดงผล” ในพื้นที่สำคัญ เช่น Featured Snippets (กล่องคำตอบเด่น) และ People Also Ask (คำถามที่พบบ่อย)

    อัปเดตการทำ SEO ปี 2026 ให้ขึ้น AI Search
    • สร้างคอนเทนต์ที่ตอบคำถามตรง ๆ: สร้างส่วน FAQ ในบทความ หรือเขียนย่อหน้าแรกที่สรุปคำตอบของหัวข้อนั้น ๆ อย่างกระชับ
    • ใช้โครงสร้างที่ Google ชอบ: ใช้ Bullet points Numbered lists และตาราง เพื่อจัดระเบียบข้อมูลให้ Google ดึงไปแสดงผลง่าย
    • ใช้ Schema Markup: การใช้ FAQ Schema หรือ How-to Schema จะช่วยให้เนื้อหาของเราโดดเด่นขึ้น

    7. Voice Search Optimization สำหรับเสียง

    การค้นหาด้วยเสียงผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะและมือถือจะเน้นความเป็นธรรมชาติและเป็นประโยคคำถามยาว ๆ มากขึ้น เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร พร้อมกับทำ Local SEO ให้แข็งแกร่งสำหรับคำถาม “ใกล้ฉัน”

    SEO Trends การค้นหาด้วยเสียง
    • ปรับเนื้อหาให้เป็นภาษาพูด: เขียนคอนเทนต์ด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ อ่านง่าย เหมือนกำลังพูดคุยกับผู้อ่าน
    • โฟกัสที่ Long-tail Keywords: เน้นคีย์เวิร์ดที่เป็นประโยคคำถาม เช่น “วิธี…”, “อะไรคือ…”, “ที่ไหนดี…”
    • ทำ Local SEO ให้แข็งแกร่ง: สำหรับธุรกิจท้องถิ่น การมีข้อมูลบน Google Business Profile ที่ถูกต้องและอัปเดตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคำถาม “ใกล้ฉัน”

    8. User Experience ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ

    สัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกถึงประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี เช่น Core Web Vitals (ความเร็วในการโหลดหรือความเสถียรของหน้าเว็บ) ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเว็บไซต์

    ทำ SEO Trends ด้วย User Experience
    • ทำให้เว็บโหลดเร็วเสมอ: บีบอัดรูปภาพ ใช้ Hosting ที่มีคุณภาพ และลดการใช้สคริปต์ที่ไม่จำเป็น
    • ออกแบบเพื่อมือถือเป็นหลัก (Mobile-First Design): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์แสดงผลและใช้งานได้ง่ายบนหน้าจอมือถือ
    • ทำให้ Layout น่าอ่าน: ใช้ Font ที่อ่านง่าย มีพื้นที่ว่าง (White Space) ที่เหมาะสม และแบ่งเนื้อหาเป็นย่อหน้าสั้น ๆ

    9. การสร้างลิงก์ (Link Building) ที่เน้นคุณภาพและความเกี่ยวข้อง

    ยุคของการสร้าง Backlink จำนวนมาก ๆ ได้จบลงแล้ว Google จะให้น้ำหนักกับ “คุณภาพ” และ “ความเกี่ยวข้องตามบริบท” ของลิงก์มากกว่าปริมาณ ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

    อัปเดต SEO โดยการสร้าง Backlink
    • Digital PR: สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เช่น รายงานผลสำรวจ หรือ Infographic เพื่อให้สื่อหรือเว็บไซต์อื่นอยากนำไปอ้างอิงและลิงก์กลับมาหาเราเอง
    • สร้างความสัมพันธ์: เข้าร่วมเป็น Guest Speaker ใน Podcast หรือ Webinar ในวงการของคุณ เพื่อสร้างลิงก์คุณภาพและสร้าง Authority ไปพร้อม ๆ กัน

    ตารางเปรียบเทียบระหว่าง SEO แบบเก่า กับ SEO Trends 2026

    หลังจากที่เราเจาะลึกรายละเอียดของทั้ง 9 เทรนด์สำคัญไปแล้ว เพื่อให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดได้ง่ายขึ้น เราจึงได้สรุปความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างแนวทางการทำ SEO แบบดั้งเดิม กับแนวทางที่เราต้องยึดถือเพื่อความสำเร็จในปี 2026 มาให้ดูในตาราง ดังนี้

    คุณลักษณะSEO แบบเก่าSEO Trends 2026
    เป้าหมายของการทำ SEOติดอันดับ 1 ใน 10 ลิงก์สีน้ำเงินถูกนำเสนอใน AI Overviews และเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
    สิ่งที่โฟกัสในการทำคอนเทนต์Keywords (คำค้นหา)Topics & Concepts (หัวข้อและแนวคิด)
    หัวใจของคอนเทนต์ความยาวและจำนวนคีย์เวิร์ดE-E-A-T (ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ)
    รูปแบบเนื้อหาหลักบทความยาว ๆ (Text-based)ทุกรูปแบบ (Text, Image, Video, Short-form)
    มุมมองต่อ AIเครื่องมือช่วยเขียนเบื้องต้นประตูบานแรก ที่ผู้ใช้จะได้เจอคอนเทนต์ของเรา
    การวัดผลหลักอันดับ (Rankings) และ จำนวนคลิก (Clicks)การแสดงผล (Impressions) ในพื้นที่สำคัญและ Brand Search
    กลยุทธ์การสร้างลิงก์เน้นปริมาณ Backlinksเน้น Digital PR และลิงก์ที่สร้างความน่าเชื่อถือ
    ทักษะที่สำคัญที่สุดความรู้ทางเทคนิค (Technical SEO)ความเข้าใจผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง (User Intent)

    จากตารางนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าการทำ SEO ได้เปลี่ยนไปแล้ว หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การเอาชนะ อัลกอริทึมด้วยเทคนิคต่าง ๆ อีกต่อไป แต่คือการกลับไปสู่พื้นฐานที่แท้จริง นั่นก็คือ การสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าให้กับมนุษย์จน AI ยอมรับและเลือกเราไปนำเสนอ

    สรุป

    จากการอัปเดต 9 เทรนด์ SEO ข้างต้นจะเห็นว่าทุกอย่างกำลังมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือโลกของ SEO กำลังเปลี่ยนจากการต่อสู้ด้วยเทคนิคมาเป็นการแข่งขันกันที่คุณภาพและคุณค่า การมาถึงของ AI Search ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคคอนเทนต์ที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ

    หัวใจสำคัญของ SEO Trends ในปี 2026 จึงไม่ใช่การไล่ตามเทคนิคใหม่ ๆ ที่ซับซ้อน แต่คือการกลับไปสู่คำถามที่เรียบง่ายที่สุด

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เพราะสนามแข่งขันนี้กำลังถูกปรับให้เอื้อต่อผู้ที่มอบคุณค่า ไม่ใช่ผู้ที่เก่งเรื่องเทคนิคเพียงอย่างเดียวหากคุณอ่านมาถึงตรงนี้และตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือความท้าทายที่สำคัญ และกำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO ที่เข้าใจเทรนด์เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง เราพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัล

    Picture of chen.krajang
    chen.krajang

    บทความแนะนำ

    ในโลกดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว การสร้างตัวตนของแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของตนเอง
    1187
    แชร์
    ประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ควรทำเว็บไซต์ควรใส่ใจ โดยการปรับปรุงเชิง Technical SEO เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์และช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาคำตอบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
    1141
    แชร์
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การทำ SEO นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่จะเห็นผลมากยิ่งขึ้นเมื่อทำ SXO หรือ Search Experience Optimization ควบคู่กันไปด้วย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไปให้ผู้ใช้
    1118
    แชร์

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า

    KRA-JANG พร้อมช่วยเหลือและทำธุรกิจไปกับคุณ

    รับการตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง