UX / UI ทำหน้าที่อะไร ทำไมถึงเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการทำ SEO

เมื่อพูดถึงองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จ หลายคนก็จะถึงการทำ Keyword Research วิเคราะห์หาค้นหาที่เหมาะสมกับธุรกิจ รวมไปถึงการปรับปรุงเนื้อหาให้มีคุณภาพ ทั้งความสดใหม่ ความถูกต้อง และการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ แต่รู้ไหมว่ายังมีองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กันอย่าง UX และ UI ที่ก็สามารถช่วยให้อันดับเว็บไซต์สูงขึ้นได้ด้วยเช่นกัน บทความนี้กระจ่างจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ UX / UI ว่าคืออะไร และทำงานร่วมกับการทำ SEO อย่างไรบ้าง

UI คืออะไร ย่อมาจากอะไร

UI หมายถึง User Interface ถ้าพูดให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ก็คือ หน้าตาของเว็บไซต์ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ User ใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่ง UI ที่สามารถนำไปใช้ออกแบบเว็บไซต์นั้นมีเยอะมาก ๆ และขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์เป็นหลัก 

ตัวอย่าง User Interface ที่คนนิยมใช้ในการออกแบบเว็บไซต์

• ปุ่ม (Buttons) เป็น UI ที่เห็นได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มเพื่อติดต่อหาแบรนด์ กดสินค้าลงตะกร้า สั่งซื้อ หรือตาม CTA ที่ต้องการ
• ข้อความ (Text) เนื้อหาทั้งหมดที่อยู่บนเว็บไซต์ เพื่อบอกข้อมูลหรือรายละเอียดสินค้า
• แบบฟอร์ม (Lead Form) เป็นแบบฟอร์มที่ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล เพื่อให้แบรนด์ติดต่อกลับไป
• กล่องตัวเลือก (Checkboxes) ไว้สำหรับให้ผู้ใช้เลือกฟังก์ชันต่าง ๆ ตามต้องการ ซึ่งถ้าเป็น Checkboxes จะสามารถกดได้มากกว่า 1 ตัวเลือก
• ตัวนำทาง (Breadcrumb) เป็นเครื่องมือนำทางไปยังหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ และบอกผู้ใช้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ส่วนไหนของเว็บไซต์
• ตัวแบ่งหน้า (Pagination) เครื่องมือที่ใช้แบ่งเนื้อหาของเว็บไซต์ ส่วนใหญ่เราจะเห็นบริเวณแถบล่างสุดของเนื้อหาที่ปรากฎเป็นตัวเลข 1 2 3 4 ซึ่งผู้ใช้สามารถกดคลิกไปยังหน้าที่ต้องการได้

UX คืออะไร ย่อมาจากอะไร

UX ย่อมาจาก User Experience ประสบการณ์การใช้งานของ User หรือกระบวนการที่ผู้ใช้โต้ตอบกับองค์ประกอบต่าง ๆ บนเว็บไซต์หรือ User Interface ที่กระจ่างอธิบายไปข้างต้น จนเกิดความรู้สึกพึงพอใจ เช่น หน้าตาเว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก นำทางไปยังหน้าต่าง ๆ ไปอย่างถูกต้อง มีความสะดวกสบายในการค้นหาสิ่งที่ต้องการ หรือบอกรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังหาคำตอบ เป็นต้น

ตัวอย่างองค์ประกอบที่ช่วยให้เกิด User Experience เชิงบวก

• Visual Design หน้าตาของเว็บไซต์ที่น่าดึงดูด น่าใช้งาน และอ่านข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย
• Interaction Design การตอบสนองต่อการใช้งานเมื่อกดปุ่มหรือองค์ประกอบต่าง ๆ บนเว็บไซต์ เช่น เมื่อกดปุ่ม “สั่งซื้อสินค้า” ก็จะไปยังหน้าสรุปคำสั่งซื้อ เป็นต้น
• Webpage Load เว็บไซต์สามารถโหลดเนื้อหาและรูปภาพได้อย่างรวดเร็ว
• Accessibility การทำให้เว็บไซต์สามารถใช้งานได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ผู้มีปัญหาทางการได้ยิน ทางการมองเห็น ตาบอดสี โดยการใส่ฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก 

ตัวชี้วัด UX มีอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่แล้วการทำ SEO มักจะวัดผล User Experience เป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้ เพื่อดูว่าพวกเขาประทับใจกับการใช้งานบนเว็บไซต์หรือไม่ และสามารถนำข้อมูลหลังบ้านเหล่านั้น มาพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีตัวชี้วัดเบื้องต้น ดังนี้

• Page Speed ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์
• Average Time on Page เวลาใช้งานโดยเฉลี่ย ซึ่งควรจะมีมากกว่า 10 วินาทีขึ้นไป
• Conversion Rate เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่กระทำบางสิ่งตามที่เว็บไซต์ต้องการ เช่น สมัครสมาชิก สั่งซื้อสินค้า กรอกฟอร์มติดต่อกลับ เป็นต้น
• Bounce Rate เปอร์เซ็นต์ที่ผู้ใช้เข้ามาในเว็บไซต์และกดออกไปโดยที่ยังไม่ได้โต้ตอบใด ๆ เลย ซึ่งหากเว็บไซต์ไหนมี Bounce Rate สูง อันดับของเว็บไซต์ก็จะตกลงไปเรื่อย ๆ ด้วย

กล่าวคือ UI จะเน้นไปหน้าตาและความสวยงามของเว็บไซต์เป็นหลัก เพราะเป็นส่วนที่ผู้ใช้มองเห็น ส่วน UX จะให้ความสำคัญกับพฤติกรรม ความราบรื่นระหว่างการใช้งาน ไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้หลังจากได้เข้ามาเยี่ยมชมและใช้งานเว็บไซต์แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า UX และ UI เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันนั่นเอง

ทำไม UX / UI ที่ดี ถึงช่วยให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับได้ในระยะยาว

• ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น เพราะเกิดความรู้สึกประทับใจในการใช้งาน เมื่อใช้เวลากับเว็บไซต์นานขึ้น Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์นี้มีคุณภาพ สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้
• เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น กลุ่มเป้าหมายที่มีความตั้งใจเข้าเว็บไซต์มาเพื่อซื้อสินค้า เมื่อได้เจอกับเว็บไซต์ที่หน้าตาสวยงามและใช้งานง่าย มีรายละเอียดสินค้าครบ ฟันธงได้เลยว่าพวกเขาจะตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็วแน่นอน
• มีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้น เว็บไซต์ที่มี UX และ UI ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งาน ก็จะมีการแนะนำและดันอันดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ช่วยให้มีคนมองเห็นเว็บไซต์มากขึ้นตามไปด้วย

แจกเคล็ดลับการดีไซน์ UX / UI ที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO

การออกแบบเว็บไซต์ควรใส่ใจทั้ง UX และ UI เพราะถ้าเว็บไซต์หน้าตาสวย แต่กดปุ่มอะไรไม่ได้เลยหรือโหลดช้ามาก ๆ สิ่งที่ตั้งใจดีไซน์ไปก็เปล่าประโยชน์ รวมถึงเว็บไซต์ที่โหลดเร็ว แต่ว่าหน้าตาเว็บไซต์ไม่สวย อ่านแล้วปวดตา คนก็อยากจะกดออกจากเว็บไซต์เช่นกัน เพื่อให้การทำ SEO นั้นเป็นไปเป้าหมายที่ตั้งไว้มากที่สุด เราจึงมาแจกเคล็ดลับการออกแบบ UX / UI ที่จะช่วยรักษาอันดับเว็บไซต์อย่างมั่นคงในระยะยาว

ออกแบบ User Interface อย่างไรให้สวยและใช้งานได้จริง

• Consistency การออกแบบหน้าตาของเว็บไซต์ควรมีความสม่ำเสมอกันในทุก ๆ หน้า ไม่ว่าจะเป็น ขนาดตัวอักษร รูปแบบฟอนต์ สี และการจัดวางเลย์เอาต์
• Simplicity การออกแบบที่เรียบง่ายไม่ได้ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเบื่อ กลับกันยังช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ่มหรือไอคอนเยอะ ๆ เน้นเฉพาะองค์ประกอบที่สำคัญก็พอ
• Prioritize Content เรียงลำดับเนื้อหาตามความสำคัญ ถ้าเนื้อหาส่วนไหนอยากให้โดดเด่นหรือเป็นหัวข้อหลักก็ให้ใช้ตัวหนา (Bold) หรือสีที่ตัดกับข้อความอื่น ๆ เป็นต้น
• Responsive Design การออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้รองรับกับอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟน หรือแท็บแล็ต

ออกแบบ User Experience อย่างไรให้ผู้ใช้งานประทับใจ

• Usability ฟีเจอร์และฟังก์ชันทั้งหมดบนเว็บไซต์สามารถคลิก ใช้งานได้ และแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ได้จริง 
• Clarity ปุ่ม เมนู เนื้อหาหรือวิธีการใช้งานมีความชัดเจน โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเดาว่าปุ่มไหนหมายถึงอะไร หรือต้องใช้งานอย่างไร
• Smooth User Flow ผู้ใช้สามารถใช้งานและเดินทางบนเว็บไซต์ได้อย่างราบรื่น เช่น การล็อกอิน สั่งซื้อสินค้า จนถึงการชำระเงิน
• A/B Testing การทดสอบเพื่อเปรียบเทียบหน้าเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน เพื่อวัดประสบการณ์ใช้งาน และใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ จากนั้นก็นำคำติชมต่าง ๆ มาพัฒนาการออกแบบเว็บไซต์ต่อไป

สรุป

กล่าวคือ ทั้ง 2 องค์ประกอบจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทั้งหน้าตาของเว็บไซต์และความสะดวกในการใช้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นเกณฑ์สำคัญที่ Google ใช้ในการประเมินเว็บไซต์ ดังนั้น การออกแบบ UX / UI ที่ดีก็จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีบนหน้า Search Engine ได้ในระยะยาว นอกจากนี้สำหรับฝั่งเว็บไซต์ธุรกิจ ก็จะช่วยยอดขายสินค้าหรือบริการของคุณเพิ่มขึ้นตามอีกด้วย