Keyword Research คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการทำ SEO

ถ้าทำ SEO มาสักพักแต่ยังไม่ติดอันดับหรือคนเข้ามาที่เว็บไซต์น้อยมาก อาจใช้คำค้นหาที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ตามหา แก้ไขด้วยการทำ Keyword Research ที่ถูกวิธีและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
แชร์
keywords research คืออะไร

สมัยนี้ถ้ามีข้อสงสัยหรือคำถามอะไร ก็ต้องค้นหาบน Search Engine เพราะเข้าถึงได้ง่ายและได้คำตอบที่รวดเร็วทันใจ และแน่นอนว่าประโยค คำ หรือวลีต่าง ๆ ที่คนใช้ค้นหานั้นจำเป็นต่อการทำ SEO มาก ๆ เพราะช่วยให้นักการตลาดวางแผนได้ว่าต้องทำคอนเทนต์แบบไหนถึงจะตอบสนองความต้องการได้ ซึ่งการจะได้คำเหล่านั้นก็ต้องอาศัยกระบวนการ Keyword Research แล้วการทำ Keyword Research คืออะไร Keyword ที่ดีต้องเป็นยังไง มาหาคำตอบที่บทความนี้กันเลย

  • Keyword Research คือกระบวนการค้นหาคำ วลี หรือประโยคที่คนใช้บน Search Engine ทำให้เรารู้ว่าพวกเขาคำอะไรในการค้นหาสิ่งที่ต้องการและนำมาปรับใช้กับการทำคอนเทนต์
  • การทำ Keyword Research ช่วยให้รู้ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและวางแผนขั้นตอนการทำ SEO ได้ง่ายขึ้นด้วย
  • ประเภทของ Keyword โดยทั่วไปแล้วมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ Generic Keywords, Niche Keywords และ Long-Tail Keywords
เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

    Keyword Research คืออะไร

    keyword research คืออะไร

    Keyword Research คือกระบวนการค้นหาวลี คำ หรือประโยคที่ผู้คนใช้ในการข้อมูลต่าง ๆ ทั้งสินค้า บริการ หรือสิ่งที่ต้องการรู้บน Search Engine ทำให้เรารู้ปริมาณการค้นหา (Search Volume) ว่ามากหรือน้อยแค่ไหน รู้การแข่งขัน และคู่แข่งเรา Rank อันดับเท่าไหร่ เพื่อคัดเลือกคำที่เหมาะสมกับเนื้อหาและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหาได้ดีที่สุดมาสร้างเนื้อหาต่อไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงคำ ๆ เดียว แต่สามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย หรือจะเลือกที่มีความหมายคล้ายคลึง (Synonyms) ไปด้วยก็ได้เช่นกัน 

    Keyword กับการทำ SEO มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

    ความเเตกต่างระหว่าง keyword research กับ SEO

    การทำ Keyword Research ช่วยให้เข้าใจตัวธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และคู่แข่งของเรามากขึ้น อีกทั้ง การมีชุด Keyword ช่วยให้วางแผนการทำ SEO เป็นระบบ ทั้งการวางโครงสร้างเนื้อหา (Content Structure), โครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) และการทำ Backlink

    การเเบ่งประเภทของ keyword

    ประเภทของ Keyword ที่คนใช้ทำ SEO มีอะไรบ้าง

    จะเห็นได้ว่าข้อดีของการทำ Keyword Research นั้นส่งผลต่อการทำ SEO มากทีเดียว และแน่นอนว่าการเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสมกับเนื้อหา สินค้าและบริการของธุรกิจ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO ได้มากขึ้นไปอีก ซึ่งประเภทของ Keyword มีด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

    Generic Keyword

    Generic Keyword คือคำค้นหาที่มีความหมายกว้าง ๆ ไม่เฉพาะเจาะจงและมักจะเป็นคำสั้น ๆ เช่น เครื่องสำอาง, รองเท้า, ตุ๊กตา, กล่องสุ่ม หรือตู้เย็น ไม่ว่าคนจะเซิร์ชอะไรก็ต้องมี Generic Keyword อยู่ด้วย ทำให้เป็นประเภทคำที่มีปริมาณการค้นหาสูงมาก ๆ คนจึงไม่นิยมใช้คำเหล่านี้แค่กลุ่มเดียวในการทำ SEO เพราะการทำให้ติดหน้าแรกนั้นเป็นไปได้ยากมาก เว้นแต่ว่าเว็บไซต์นั้น ๆ จะมีเชี่ยวชาญในคำนั้น ๆ จริง 

    Niche Keyword

    ต่อกันที่กลุ่มคำค้นหาที่มีปริมาณ Search Volume ในระดับกลาง ๆ หรือ Niche Keyword คือคำค้นหาที่มีความต้องการของผู้ค้นหาเพิ่มเข้าไปต่อท้ายกับ Generic Keyword ทำให้ความหมายของคำค่อนข้างเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น โดยการบอกประเภทหรือหมวดหมู่เข้าไปเพิ่มเติม เช่น รองเท้าผ้าใบ สีขาว, ร้านอาหารญี่ปุ่น แถวสะพานควาย, ที่เที่ยว กระบี่ เป็นต้น

    Long-Tail Keyword

    Long-Tail Keywords คือ กลุ่มคำที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงและแสดงถึงความต้องการของผู้ค้นหาได้ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลี ใกล้ฉัน, รองเท้าผ้าใบ Nike สีขาว ราคาไม่เกิน 3,000 บาท, คาเฟ่เปิดใหม่ นนทบุรี 2024, กล่องสุ่ม labubu macaron ราคา เป็นต้น ซึ่งจะเป็นวลีที่มีค่อนข้างยาวและมีคู่แข่งน้อยกว่าคำประเภทอื่น ๆ ทำให้คนนิยมนำกลุ่มคำเหล่านี้มาช่วยในการทำ SEO เพราะช่วยให้ผู้ค้นหาเจอในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ง่ายขึ้น 

    Branded Keyword

    กลุ่มคำค้นหาที่มีการระบุประเภทสินค้า ผลิตภัณฑ์ และชื่อแบรนด์ลงไปด้วย อนุมานได้ว่าผู้ใช้นั้นค่อนข้างรู้จักแบรนด์ รู้ว่าแบรนด์นี้ขายอะไร มีบริการอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น กระเป๋า Standoil, ไอศกรีม Swensen’s, รองเท้า Adidas, น้ำดื่มคริสตัล เป็นต้น

    ขั้นตอนการวิเคราะห์ keyword

    อยากได้ Keyword ที่ดี คำค้นหาที่ใช่ ต้องดูยังไง

    keyword ่ที่ดีต้องดูอย่างไร

    อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว เพื่อน ๆ คงอยากรู้ว่าแล้วต้องใช้ Keyword ไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้มีสูตรตายตัวขนาดนั้น เพราะขั้นตอนการวิเคราะห์ Keyword คือ การค้นหาคำที่เหมาะสมกับเนื้อหาและตรงกับสิ่งที่คนตามหา ดังนั้น หลักเกณฑ์โดยทั่วไปของการเลือกคำที่ใช่ มีดังต่อไปนี้

    เลือกคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

    เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด โดยการเลือกคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นและค้นหาแบรนด์เจอ จะเลือกใช้คำที่สื่อถึงสินค้าโดยตรงหรือเป็นคำพ้องความหมายก็ได้ ซึ่งบางครั้งคำที่สะกดผิดอาจมี Search Volume ที่ดีกว่า ก็สามารถเอามาปรับใช้ในเนื้อหาได้เช่นกัน

    วิเคราะห์คู่แข่ง

    ใช้เครื่องมือ SEO Tools ต่าง ๆ เพื่อดูว่าคู่แข่งใช้ Keyword อะไรบ้างในการทำ SEO, แต่ละ Keyword ที่เลือกใช้ Rank อันดับเท่าไหร่บ้าง รวมไปถึงมีลักษณะการวางโครงสร้างเนื้อหาอย่างไรบ้าง แล้วเอามาปรับใช้กับคอนเทนต์ SEO ของเรา แต่ทำให้เนื้อหามีคุณภาพ เป็นประโยชน์ และครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้มากกว่าคอนเทนต์ของคู่แข่ง

    เลือกคำจาก Search Intent

    เป็นวิธีการเลือก Keyword จากวัตถุประสงค์การค้นหาของผู้ใช้ แน่นอนว่าถ้าพวกเขาใช้ Search Engine แปลว่าผู้ใช้ต้องการหาอะไรบางอย่าง สิ่งนี้ก็คือ Search Intent นั่นเอง โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

    • Informational: ค้นหาข้อมูลทั่วไป มักจะเป็นประโยคหรือคำสั้น ๆ เช่น ใครคือเทนนิส พาณิภัค, ร้านอาหารในเซ็นทรัลเวสเกต, การทำ SEO คือ เป็นต้น
    • Navigational: ค้นหาบางสิ่งที่เฉพาะเจาะจงโดยที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร อาจจะเป็นชื่อ URL หรือแบรนด์ที่พวกเขารู้จักอยู่แล้ว เช่น Facebook Login, ฮะจิบัง ใกล้ฉัน, G-mail เป็นต้น
    • Commercial: ค้นหาข้อมูลเปรียบเทียบเพื่อการตัดสินใจซื้อ เช่น รีวิวเครื่องซักผ้ารุ่น xxx, DELL กับ Acer อันไหนดีกว่ากัน, iPhone 16 vs iPhone 16 Pro เป็นต้น
    • Transactional: ค้นหาเพื่อซื้อของบางอย่าง จองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวัน, จองโรงแรมหัวหิน เป็นต้น

    เลือกจาก Search Volume

    เมื่อเราใช้เครื่องมือค้นหา Keyword แล้วก็จะมีจำนวนปริมาณการค้นหามาให้ด้วย ซึ่งจำนวน Search Volume ก็สามารถนำมาตัดสินใจได้เช่นกัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ไม่ควรจะเลือกคำที่มีปริมาณการค้นหาสูง เพราะแข่งขันได้ยาก อาจจะเลือกใช้ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาในระดับกลางควบคู่ไปกับ Long-Tail Keyword ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับสูง ๆ ให้กับเว็บไซต์ของเรา

    แจกเครื่องมือทำ Keyword Research สำหรับมือใหม่

    เครื่องมือ keyword research สำหรับมือใหม่
    • Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือทำ Keyword Research จากทาง Google ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรีและค้นหา Keyword ไม่จำกัดจำนวนครั้งอีกด้วย
    • Ubersuggest เป็นเครื่องมือที่ใช้ง่ายและเหมาะกับมือใหม่ มีฟีเจอร์ให้ลองเล่นเพียบ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ราคาก็ไม่ได้แพงเกินเอื้อม
    • Google Trends เครื่องมือติดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นบน Google ในแต่ละวัน ช่วยให้รู้ว่าคนกำลังสนใจอะไรอยู่ และสามารถนำคำต่าง ๆ มาปรับแต่งในคอนเทนต์ของเราได้
    • Google Keywords Suggestion เครื่องมือแนะนำ Keyword ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราตามหา
    • Ahrefs โปรแกรมสำหรับตรวจสอบการทำงานและวิเคราะห์ภาพรวมของเว็บไซต์
    • SEMRush เป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมการทำ SEO ครบจบในอันเดียว วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้ทั้งฝั่งเราและคู่แข่ง ปรับปรุงคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงวางแผนแคมเปญการตลาดให้แบรนด์
    • KeywordsTools.io โปรแกรมค้นหาคีย์เวิร์ด เหมาะกับการหา Long-tail Keyword เป็นอย่างมาก
    • KWFinder อีก 1 เครื่องมือยอดนิยมสำหรับสาย SEO เพราะใช้งานง่าย หน้าตาโปรแกรมสวยงาม และยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย
    • Keyword Surfer เครื่องมือดู Keyword ทั้ง Search Volume, PPC และคำนั้น ๆ ได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหร ซึ่งเป็นข้อมูลที่ส่งตรงจากทาง Google
    • SEOquake ไว้สำหรับดูอันดับหรือ Ranking เว็บไซต์ของเรา

    สรุป

    Keyword กับการทำ SEO ถือเป็นของคู่กัน เพราะการทำ Keyword Research เป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เมื่อเราได้คำค้นหาที่มีคุณภาพ ปริมาณการค้นหาเหมาะสม และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะติดหน้าแรกก็มีมากขึ้นไปด้วย และการใช้ Keyword Research Tools ก็จะช่วยเราค้นเจอคำที่ใช่ได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าธุรกิจของคุณอยากเริ่มทำ SEO และต้องการพาร์ทเนอร์คู่คิดสักคน กระจ่างเป็น Digital Agency ที่พร้อมให้บริการคุณแบบครบวงจร รับคำปรึกษาเบื้องต้นฟรี ติดต่อหาเราได้เลย!

    Picture of chen.krajang
    chen.krajang

    บทความแนะนำ

    สำหรับธุรกิจไหนที่อยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น การทำ SEO คือสิ่งที่สามารถช่วยให้ธุรกิจถูกมองเห็นในหน้าแรกของ Search Engine และเพิ่มยอดขายสินค้าได้ด้วย
    860
    แชร์
    ประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ควรทำเว็บไซต์ควรใส่ใจ โดยการปรับปรุงเชิง Technical SEO เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์และช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาคำตอบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
    785
    แชร์
    เว็บไซต์ติดหน้าแรกง่าย ๆ ด้วยการสร้างบทความ SEO ที่มีคุณภาพและไม่เพียงแค่ต้องทำให้ Robots เข้าใจเนื้อหา แต่ฝั่ง User ที่เป็นบุคคลทั่วไปต้องได้คำตอบที่กำลังตามหาอีกด้วย
    774
    แชร์

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า