อัพเดทการทำ SEO ล่าสุดปี 2024 เทรนด์อะไรกำลังมาแรงบ้าง

แม้ว่าคนจะเริ่มหันไปค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการในโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ TikTok กันมากขึ้น แต่ Google ก็ยังเป็น Search Engine ที่ทรงอิทธิพลอยู่ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าการทำ SEO ก็เป็นสิ่งที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูง การอัพเดทการทำ SEO และเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ย่อมได้เปรียบมากกว่า และในบทความนี้กระจ่างจะพาทุกคนไปเจาะลึก SEO Trends ประจำปี 2024 ว่ามีเทรนด์อะไรที่น่าจับตามอง แล้วจะเอามาปรับใช้การทำ SEO ได้อย่างไรบ้าง

Google SGE เข้ามาทำให้โลกของการค้นหาเปลี่ยนไป

Google Generative Experience เป็น 1 ใน SEO Trends ที่น่าจับตามองมาที่สุด ณ ตอนนี้ Google SGE เป็นฟีเจอร์ใหม่ของกูเกิ้ลที่จะแสดงผลการค้นหาให้ผู้ใช้ โดย Generative AI จะทำการสรุปผลลัพธ์ เป็นหัวข้อสั้น ๆ บริเวณ Snippets พร้อมแสดงภาพ บทความ คลิปวิดีโอและลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้น ๆ ให้อย่างครบถ้วน ทำให้รูปแบบการอ่านเนื้อหาของผู้ใช้งานจะเป็นแบบ “Zero Click” ในทันที

ส่งผลกระทบให้ยอดการเข้าชมเว็บไซต์อาจจะลดน้อยลง เพราะเมื่อคนอ่านจากที่ AI สรุปให้แล้ว ก็มีโอกาสที่จะไม่คลิกเข้ามาอ่านเนื้อหายาว ๆ ในเว็บไซต์แล้ว แต่อย่างไรก็ตามที่กล่าวไปนั้นเป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้น เพราะฟีเจอร์นี้ยังไม่ได้ปล่อยออกมาใช้อย่างเป็นทางการ ดังนั้น นักการตลาดต้องคอยอัพเดทการทำ SEO ด้วยการสร้างเนื้อที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้ในอนาคต AI มองเห็นและนำเนื้อหาจากเว็บไซต์ของเราไปอ้างอิงนั่นเอง

การใช้ AI กับการทำ SEO

ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, หรือ Gemini ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา และยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำ SEO ได้อีกด้วย เช่น การวางโครงสร้างคอนเทนต์, ช่วยคิด Title หรือ Meta Description, ช่วยคิดคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ถึงแม้ว่าข้อมูลจาก AI จะยังไม่ได้แม่นยำและถูกต้อง 100% แต่เราสามารถนำไอเดียที่ถูก Generate มาให้ไปต่อยอดและแตกเป็นคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้

ตอบโจทย์ยอดขายและผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วยการทำ CRO

สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มยอดขายทางธุรกิจ การทำ Conversion Rate Optimization หรือ CRO เป็นอีก SEO Trends ที่น่าสนใจ เพราะ CRO จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ให้กับแบรนด์ และยังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและการมองเห็นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การสมัครสมาชิก, ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น หรือมีคนสนใจสินค้ามากขึ้น ด้วยการเพิ่มปุ่ม CTA (Call To Action), รวมไปถึงการทำ Page Speed Optimization

คนเริ่มค้นหาด้วย Voice Search และ Visual Search มากขึ้น

SEO Trends อันต่อมาที่บางคนอาจจะยังไม่คุ้นหน้ากันเท่าไหร่ แต่นักการตลาดเชื่อว่าจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน คือ การค้นหาด้วยเสียง ดังนั้นการทำ SEO จึงต้องเลือกใช้ Keyword หรือประโยคที่มีความเป็นภาษาพูดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น คนเซิร์ชผ่านเสียงว่า “ร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน” หรือ “ส่วนผสมในการทำคัพเค้ก มีอะไรบ้าง” ในหัวข้อ H2, H3 หรือในเนื้อหาก็อาจจะแทรกคีย์เวิร์ดเหล่านี้ลงไปด้วย เป็นต้น

อีกหนึ่งการอัพเดท SEO ก็คือ การค้นหาด้วยภาพ ผ่านการใช้ Google Lens โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ทั้งการถ่ายรูปสิ่งของนั้น ๆ หรือเลือกรูปจากคลังภาพมาเพื่อค้นหา โดยประเภทเนื้อหาที่คนเริ่มนิยมเซิร์ชด้วยรูปภาพมากขึ้น เช่น เส้นทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ สูตรอาหาร แปลคำศัพท์ต่าง ๆ จากป้าย หรือรูปสินค้าที่ต้องการซื้อ ซึ่งการเพิ่มรูปภาพประกอบบทความหรือคอนเทนต์ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้มองเห็นเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้นด้วย

หลักเกณฑ์ E-E-A-T ยังสำคัญต่อการทำ SEO อย่างต่อเนื่อง

E-E-A-T เป็นหลักเกณฑ์ที่ Google นำมาใช้เพื่อวัดคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งถ้าเว็บไซต์ไหนมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อ ก็มีโอกาสที่จะแสดงผลในหน้าแรกของ Search Engine มากขึ้น ซึ่ง E-E-A-T เป็น SEO Trends พื้นฐานที่สาย SEO ต้องศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละตัวอักษรย่อมาจากคำต่อไปนี้ 

• E – Expertise ความเชี่ยวชาญในเนื้อหา
• E – Experience ประสบการณ์
• A – Authoritativeness การเป็นเจ้าของเนื้อหา (ไม่ได้คัดลอกหรือก๊อปใครมา)
• T – Trustworthiness ความน่าเชื่อถือของเนื้อหา

สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้ด้วย UX/UI ที่มีประสิทธิภาพ

เป็นวิธีการทำ Search Experience Optimization (SXO) หรือกระบวนปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ และใส่ใจกับการออกแบบ User Interface (UI) ไม่ว่าจะเป็น การจัดวางเนื้อหาให้อ่านง่าย สีและฟอนต์สบายตา ลดการแสดงผลเนื้อหาแบบ Pop-Up และเว็บไซต์โหลดได้อย่างรวดเร็ว 

และอย่างที่นักการตลาดหลายคนทราบกันดีว่า ผู้คนนิยมค้นหาผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น ทำให้อีกหนึ่งอัพเดทการทำ SEO คือการทำให้เว็บไซต์นั้น Mobile Friendly ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เกิดประสบการณ์ (User Experience) ที่ดีต่อเว็บไซต์ของเราเพิ่มยิ่งขึ้น 

Video SEO น่าจับตามองมากขึ้น

เทรนด์อัพเดทการทำ SEO อันสุดท้ายคือการทำ Video SEO โดยผลสำรวจ Video Marketing Statistic 2024 จาก Wyzowl เปิดเผยว่าผู้ใช้กว่า 89% อยากเห็นคลิปวิดีโอจากแบรนด์ที่พวกเขาติดตามมากขึ้น อีกกว่า 82% บอกว่าการดูวิดีโอช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการทำ Video SEO จึงเป็น SEO Trends ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและยอดการเข้าชมเว็บไซต์ โดยนักการตลาดอาจจะเพิ่มคลิปวิดีโอลงไปในเนื้อหา ควบคู่ไปกับการทำ YouTube SEO เพื่อให้แสดงผลบนหน้า Search Engine

ซึ่งการทำ YouTube SEO นั้นไม่ได้แตกต่างจากการทำ SEO ทั่วไปเลย ยังคงให้ความสำคัญกับการเลือก Keyword และกระจาย Keyword ในเนื้อหาอยู่เช่นเดิม มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรที่เราต้องอัพเดทในการทำ YouTube SEO บ้าง

• ใส่ Keyword ลงไปในชื่อคลิปและคำบรรยายใต้วิดีโอ
• พูด Keyword หลักลงในคลิปวิดีโอ
• เนื้อหาของคลิปวิดีโอมีประโยชน์ต่อคนดู และเป็นเนื้อหาที่เชื่อถือได้
• ในส่วนของคำบรรยายหรือ Description Box ให้สรุปเนื้อหาวิดีโอที่กระชับ ได้ใจความ รวมถึงใส่ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น คลิปรีวิวสินค้าก็อาจจะแปะลิงก์สำหรับสั่งซื้อออนไลน์ เป็นต้น (จะแปะลิงก์ที่เป็น Affiliate ก็ได้นะ)
• ทำรูปปกคลิปให้น่าสนใจ น่ากดเข้ามาดู รวมถึงต้องมีเอกลักษณ์ของช่องด้วย
• คุณภาพของคลิปวิดีโอต้องมีความละเอียดสูง คมชัด 

สรุป

จะเห็นได้ว่าทั้ง 6 SEO Trends จะให้ความสำคัญไปที่ความสะดวกสบายของผู้ใช้งานเป็นหลัก ทั้งการแสดงผลที่สั้น กระชับ ได้ใจความ และการใส่ใจในรูปแบบการค้นหาไม่ว่าเป็นเสียงหรือรูปภาพ รวมไปถึงการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยให้ฝั่งเว็บไซต์ใส่ใจเรื่องการออกแบบที่ User Friendly มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่คนทำ SEO ควรศึกษาอยู่แล้ว และในอนาคตก็อาจจะมีเทคโนโลยีหรือฟีเจอร์มาใหม่มาอีกมากมาย นักการตลาดจึงต้องคอยอัพเดทการทำ SEO พัฒนาเว็บไซต์ให้ทันเทรนด์โลกอยู่เสมอ